ขณะที่ ประเภทมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศชาย 5 อันดับ ได้แก่
1. มะเร็งตับและท่อน้ำดี
2. มะเร็งปอด
3. มะเร็งลำไส้ใหญ่
4. มะเร็งต่อมลูกหมาก
5. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ส่วนมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิง 5 อันดับแรก ได้แก่
1. มะเร็งเต้านม
2. มะเร็งปากมดลูก
3. มะเร็งตับและท่อน้ำดี
4. มะเร็งปอด
5. มะเร็งลำไส้ใหญ่
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วครับว่า การรักษา ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ต้องใช้ระยะเวลาต่อ เนื่อง และเสียค่าใช้จ่ายสูง จึงส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวม และเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เคยกล่าวไว้ว่า โรคมะเร็งเป็นกลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ มากกว่าปกติ ให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติลุกลามไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง หลอดเลือดและหลอดน้ำเหลือง และในที่สุดก็จะทำให้เกิดการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะเหล่านั้นผิดปกติ
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรค มะเร็ง ที่สำคัญ 3 ประการ
- ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกายเช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม ยารักษาโรค รวมทั้งการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียและพยาธิบางชนิด
- ปัจจัยจากพฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุราเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือเค็มจัด อาหารที่มีส่วนผสมดินประสิวและไหม้เกรียมเป็นประจำ
- ปัจจัยทางพันธุกรรม เช่น ความผิดปกติของยีน และความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน ในปัจจุบันแพทย์สามารถรักษามะเร็งหลายชนิดให้หายได้ และทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีอัตรารอดชีวิตที่ยาวนานมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของมะเร็งที่พบ เพราะมะเร็งระยะเริ่มแรกย่อมมีการตอบสนองต่อการรักษาหรือมีโอกาสหายขาด มากกว่าระยะลุกลาม หรือระยะสุดท้าย ดังนั้น การตรวจค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรกจึงมีความสำคัญ
อาการเตือน 5 มะเร็ง ที่เป็นกันบ่อย
เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้ผู้อ่านได้ไหวตัวทันก่อนที่เนื้อร้ายจะเข้ามาแฝงใน ร่างกายโดยที่คุณเองไม่รู้ตัว
มะเร็งตับ
นั่นก็เป็นเพราะสมรรถภาพการทำงานของตับด้อยลง เนื่องด้วยพฤติกรรมการกินของคนไทยเปลี่ยนไป คนนิยมบริโภคอาหารตะวันตก จำพวก แป้ง น้ำตาล ไขมัน มากขึ้น จึงกระตุ้นให้เกิดไขมันพอกตับ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรังและพัฒนาการเป็นตับแข็ง ขณะที่ผู้ป่วยบางกลุ่มที่ได้รับสารอะฟลาท็อกซินที่สร้างขึ้นจากเชื้อราใน อาหารจำพวก ถั่วลิสงบด พริกแห้ง หัวหอม กระเทียม องุ่นแห้ง ปลาตากแห้ง เหล่านี้เป็นจำนวนมาก ก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี อันนำไปสู่โรคมะเร็งตับในอนาคตได้เช่นกัน
มะเร็งปอด
มะเร็งเต้านม
มะเร็งปากมดลูก
โรคมะเร็ง ลำไส้ใหญ่
ดังนั้น การจะทราบว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือไม่ สามารถทำได้ด้วยวิธีการตรวจคัดกรอง เพื่อตรวจหาความผิดปกติเบื้องต้นก่อนที่โรคจะลุกลามกลายเป็นมะเร็ง ทั้งนี้หากใครเคยมีพฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไป เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระก้อนเล็กลง อุจจาระมีมูกเลือดปะปน หรือมีอาการถ่ายอุจจาระไม่สุด ให้รู้ไว้ว่าเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนจากมะเร็งลำไส้ใหญ่
การป้องกัน โรคมะเร็ง
- ออกกำลังกายประจำ
- ทำจิตแจ่มใส
- กินผักผลไม้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของมื้ออาหาร
- กินอาหารให้หลากหลาย ไม่ซ้ำซาก จำเจ
- กินอาหารที่ใหม่สด สะอาด ปราศจากเชื้อรา
- ไม่กินอาหารที่มีไขมันสูง
- ไม่กินอาหารปิ้งย่างหรือทอดไหม้เกรียม
- ไม่กินอาหารหมักดองเค็ม
- ไม่กินปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดดิบๆ
- ไม่สูบบุหรี่
- ไม่ดื่มสุรา
- ไม่มีเซ็กซ์มั่วหรือไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ไม่อยู่กลางแดดนานๆ
- ตรวจร่างกายเพื่อค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรก เป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง
ท้ายนี้ ขอให้ผู้ชมเวปไซด์ทุกท่าน มีสุขภาพที่ดี และไม่ประมาทในการดำรงชีวิต สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ด้วยความรักและห่วงใย
ผู้เขียน : บัวสี่เหล่า
#สถิติโรคมะเร็ง
#โรคมะเร็ง